Home » FAQs
FAQS
ความจุของแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถเก็บพลังงานได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นจะใช้เวลานานเท่าใดในการชาร์จ ความจุของแบตเตอรี่แตกต่างกันไปสำหรับรถแต่ละคัน
ข้อมูลที่ต้องทราบเพื่อการคำนวณ
- ขนาด battery capacity (หน่วย kWh)
- ขนาด on-board charger (หน่วย kW)
ตัวอย่างเช่น
รถ Audi รุ่น e-Tron GT quattro Performance
Battery Capacity : 93.4 kWh
On-board charger : 22 kW
จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0%-100% : 93.4/22 = 4.15 ชั่วโมง
เครื่องชาร์จที่เหมาะกับการใช้งานได้โดยดูจากขนาดของ on-board charger (หน่วย kW) ของรถยนต์
เช่น on-board charger = 7.2 kW ควรเลือกใช้เครื่องชาร์จขนาด 7.4 kW เนื่องจากความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับ on-board charger
สำรวจมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้าน โดยปกติขนาดมิเตอร์ของบ้านพักอาศัยทั่วไปจะใช้เป็น 15(45) 1 เฟส(1P) หมายถึงมิเตอร์ขนาด 15 แอมป์(A) และสามารถใช้ไฟได้มากถึง 45(A) สำหรับคนที่ต้องการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน แนะนำให้เปลี่ยนขนาดมิเตอร์เป็น 30(100) ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ป้องกันการใช้ไฟฟ้าที่มากเกินไป
**สำหรับคนที่คิดว่าต้องเปลี่ยนระบบไฟเป็น 3 เฟสรึเปล่า? คำตอบคือ “ไม่จำเป็น” เนื่องจากถ้าบ้านไม่มีการใช้งานไฟฟ้ามากเกินไป การใช้ไฟ 1 เฟสก็เพียงพอ
Wallbox สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ (IP55) สามารถติดตั้งและชาร์จในขณะที่ฝนตกได้ ตัวเครื่องและสายชาร์จสามารถโดนน้ำได้ แต่ไม่ควรให้หัวชาร์จโดนน้ำ เพราะจะทำให้สายชาร์จชื้นส่งผลให้อายุการใช้งานของสายชาร์จลดลง ทางที่ดีเมื่อมีการเลิกใช้งานเครื่องชาร์จแล้วควรนำหัวชาร์จเก็บเข้าที่จัดเก็บหัวชาร์จให้เรียบร้อย หรือนำปลอกหัวชาร์จมาปิดเพื่อยืดอายุการใช้งานของหัวชาร์จ นอกจากนี้ทางผู้เชี่ยวชาญจะทำการติดอุปกรณ์ป้องกันไฟดูดและเดินสาย ground ให้อยู่แล้วเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน